นโยบายความเป็นส่วนตัว Privacy Notice

          บริษัท มิตรสิบ เสกเงิน จำกัด ( “ บริษัท ” ) ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ( “ ท่าน ” ) ได้ให้ไว้กับบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ บริษัทจึงขอแจ้งให้ทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวอันเกี่ยวข้องกับแนวทางการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) เมื่อเจ้าของข้อมูลมีนิติสัมพันธ์ ติดต่อ หรือใช้บริการ และ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ ที่บริษัทกำหนด ดังนั้นบริษัทจึงจัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อชี้แจง รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล การทำลายข้อมูล อีกทั้งสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังต่อไปนี้

      1. ข้อมูลที่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และแหล่งที่มาของข้อมูล

         บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม หรือจากแหล่งอื่น รวมถึงการได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้ง โดยจะจัดเก็บเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้แก่เจ้าของข้อมูล

          1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป ที่เป็นข้อมูลแสดงตัวตนของท่าน Identity Data ซึ่งหมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ/นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน/เดือน/ปีเกิด รวมถึงข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ ( ลายนิ้วมือ ข้อมูลใบหน้า ) ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น

          1.2 ข้อมูลติดต่อของท่าน Contact Data เช่น ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์

          1.3 ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรมของท่านกับบริษัท Financial and Transaction Data เช่น หมายเลขบัญชีเงินฝาก/เงินลงทุน หรือรายการเบิก/ถอนเงินในบัญชี ข้อมูลรายได้ รายจ่าย ยอดเงินฝากที่มีกับธนาคาร ประวัติสินเชื่อที่มีอยู่กับบริษัท หรือข้อมูลการชำระหนี้ ข้อมูลจากฐานข้อมูลของกรมบังคับคดี เป็นต้น

          1.4 ข้อมูลความชื่นชอบของท่านในการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต Technical and Usage Data เช่น การค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัท ( Website Browsing ) จากการใช้ Cookies หรือการเชื่อมต่อเว็บไซต์อื่นๆที่ท่านเข้าไปค้นหาข้อมูล เป็นต้น

           1.5 ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท Communication Data เช่น เทปบันทึกในกรณีที่ท่าน เข้ามาติดต่อบริษัท ผ่านทาง Contact Center ซึ่งอาจเป็นภาพหรือเสียง เป็นต้น และไม่ว่าท่านได้ให้ข้อมูลไว้หรือมีอยู่กับบริษัท หรือที่บริษัทได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งข้อมูลอื่นที่น่าเชื่อถือ และ/หรือบริษัทพันธมิตรของบริษัท หรือที่ปรึกษาของบริษัท

        2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

           ทั้งนี้ บริษัททำการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อประโยชน์ของท่านในการทำธุรกรรมและ/หรือใช้บริการกับบริษัท เพื่อปฎิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และ/หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัท โดยบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัท ท่านสามารถศึกษารายละอียดได้ดังต่อไปนี้

            2.1 การปฎิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆของท่าน การปฎิบัติตามกระบวนการภายในของบริษัท การทำประกันภัยทรัพย์หลักประกัน การโอนขายกลุ่มลูกหนี้ให้แก่บุคคลอื่น การรับ-ส่งเอกสารการติดต่อระหว่างบริษัท การทวงถามให้ท่านชำระหนี้ที่ค้างตามสัญญาสินเชื่อที่มีกับบริษัท

            2.2 การปฎิบัติตามกฎหมาย เช่น การป้องกันและการตรวจจับความผิดปกติของธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย การรายงานข้อมูลของท่านต่อกรมสรรพากร การรายงานข้อมูลส่วนบุคคลต่อหน่วยงานราชการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ กรมสรรพากร หรือ เมื่อได้รับหมายเรียกหมายอายัดจากหน่วยงานราชการ หรือ ศาล เป็นต้น

             2.3 ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น

  • การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการกระทำที่ผิดกฎหมายต่างๆ ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทในธุรกิจเดียวกันในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงข้างต้น
  • การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อทำธุรกรรมกับสำนักงานหรือสาขาของบริษัทลงบน CCTV
  • การบริหารความเสี่ยง/การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการส่งต่อไปยังบริษัทในเครือกิจการเพื่อการดังกล่าว ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ Binding Corporate Rule
  • การตรวจสอบการรับส่งอีเมลหรือการใช้อินเตอร์เน็ตของพนักงานกับท่าน เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับของบริษัทต่อบุคคลภายนอก
  • การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในปรเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นของบริษัทให้แก่ท่านอย่างเหมาะสมกับความต้องการของท่าน และ/หรือในการทำวิจัยทางการตลาด เพื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
  • การรักษาความสัมพันธ์กับท่าน เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษโดยไม่มีวัถตุประสงค์ทางการตลาดให้แก่ท่าน เป็นต้น

             ทั้งนี้หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเราอาจส่งผลกระทบต่อท่านในการไม่ได้รับการให้ผลิตภัณฑ์/บริการไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฎิบัติตามสัญญาและท่านอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฎิบัติตามกฎหมายใดๆที่ท่านหรือบริษัทต้องปฎิบัติ และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง

           3. การเปิดเผยและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลร่วมกับบุคคลที่สาม

              หากท่านได้ให้ความยินยอม หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ หรือเป็นไปตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น บริษัทอาจส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ไปยังบุคคลอื่นทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทอาจเปิดเผยหรือใช้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นกับบุคคลดังต่อไปนี้ เช่น

               3.1 บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึง กรรมการ พนักงาน หรือตัวแทนของบริษัทเหล่านั้น

               3.2 พันธมิตรทางธุรกิจ (ตรวจสอบรายชื่อดังกล่าวได้จากเว็บไซต์ของบริษัท)

               3.3 หน่วยงานทางการที่กำกับดูแลบริษัท ศาล ตำรวจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมทั้ง ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือหน่วยงานทางการอื่นใดที่มีอำนาจและมีคำสั่งให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลหรือนำส่งทรัพย์สิน เช่น กรมบังคับคดี กรมสรรพากร เป็นต้น

               3.4 หน่วยงาน องค์กร ผู้ให้บริการภายนอก หรือนิติบุคคลอื่นใดที่มีสัญญากับบริษัท หรือที่บริษัทเป็นคู่สัญญา หรือที่บริษัทมีความสัมพันธ์ด้วย ซึ่งบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการให้บริการและ/หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท เช่น ผู้ให้บริการ Cloud Computing บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด บริษัทรับจ้างพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้แก่บริษัท

               3.5 บริษัทข้อมูลเครดิตและสมาชิกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต เป็นต้น

               3.6 เปิดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอกตามที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน

               3.7 เปิดเผยข้อมูลเพื่อทำการธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการตามความประสงค์ของท่าน

            4. สิทธิของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

              บริษัทคำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งสิทธิของท่านเป็นสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ควรทราบ ได้แก่

              4.1 สิทธิขอถอนความยินยอม หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่จะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

                   ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

             4.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

            4.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ลูกค้า/คู่ค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

             4.4 สิทธิขอคัดค้าน ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

                     นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

                4.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

                4.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

                4.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบันสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

                4.8 สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

               4.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดต่อสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

                     ท่านสามารถขอใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้ โดยยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่อบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร หรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนดผ่าน”ช่องทางการติดต่อของบริษัท”ด้านล่าง โดยบริษัทจะพิจารณาแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องฯของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีที่มีกฏหมายกำหนดไว้

             5. คุกกี้

                คุกกี้คือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่จะเก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็นในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลไว้ชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร รวมถึงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ได้รับการบริการที่ดีที่สุด โดยไม่ได้บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ ซึ่งข้อมูลคุกกี้จะถูกจัดเก็บเป็นเวลา 12 เดือน (ตรวจสอบสถานะการใช้งานหรือปฏิเสธการใช้งานคุกกี้ในเบราว์เซอร์ได้ทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัท)

             6. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

                บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของ
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม

                 นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น

                7. ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

                  กรณีที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้า และ/หรือคู่ค้า ของบริษัทอีกต่อไปหรือยุติความสัมพันธ์กับบริษัทไปแล้ว บริษัทจะพิจารณาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ) จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี เป็นต้น และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาในการจัดเก็บแล้วบริษัทจะทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที

               8. ช่องทางการติดต่อ

                  บริษัทจัดให้มีช่องทางการติดต่อหากท่านมีข้อร้องเรียน หรือต้องการใช้สิทธิที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อตามข้อมูลที่แจ้งไว้ในแต่ละช่องทางการบริการของบริษัท

                  8.1 ติดต่อสำนักงานใหญ่ บริษัทมิตรสิบ เสกเงิน จำกัด เลขที่895-6 หมู่ที่5 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10270 หรือสาขาของบริษัท

                  8.2 อีเมล : cm.dpo@mitsibleasing.com

                  8.3 Call Center 02-7438787 ต่อ 922 , 923

      บริษัท มิตรสิบ เสกเงิน จำกัด   ตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกบันทึกโดยกล้องวงจรปิด (CCTV) นั้นมีความสำคัญ เราจะยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานในด้านความเป็นส่วนตัวและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและเก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของท่านถูกเก็บ ใช้ และเปิดเผย เป็นไปตามความประสงค์ และเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทจึงขอประกาศความเป็นส่วนตัวกล้องวงจรปิด (CCTV) แก่ท่าน

      1. วัตถุประสงค์

           บริษัท มิตรสิบ เสกเงิน จำกัด   ใช้กล้องวงจรปิด (CCTV)  ภายในและโดยรอบสถานที่ของบริษัท ในการบันทึกข้อมูลพื้นที่เฉพาะ เพื่อการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของสถานที่ สินทรัพย์ พนักงาน ลูกค้า และผู้มาติดต่อ

  1. เพื่อการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยส่วนตัวของท่าน ซึ่งรวมไปถึงทรัพย์สินของท่าน
  2. เพื่อการปกป้องอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพย์สินของเราจากความเสียหาย การขัดขวาง การทำลายซึ่งทรัพย์สินหรืออาชญากรรมอื่น
  3. เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการยับยั้ง ป้องกัน สืบค้น และ ดำเนินคดีทางกฎหมาย
  4. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่มีกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์
  5. เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสอบสวน หรือ กระบวนการเกี่ยวกับการส่งเรื่องร้องเรียน
  6.   เพื่อการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการริเริ่มหรือป้องกันการฟ้องร้องทางแพ่ง ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
  1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

             บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้

  1. ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
  2. ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  3. ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และทรัพย์สินของเราซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน เราถือว่าการใช้กล้องวงจรปิดเป็นมาตรการที่สำคัญซึ่งช่วยให้เราสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันเหล่านี้ได้

         3. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวม

             ตามวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. บริษัททำการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV)  ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจะติดป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ ทางเข้าและทางออก ภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงพื้นที่ที่บริษัทเห็นสมควรว่าเป็นจุดที่ต้องมีการเฝ้าระวัง เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้ามายังพื้นที่ ดังต่อไปนี้

  1. ภาพนิ่ง
  2. ภาพเคลื่อนไหว
  3. เสียง
  4. ภาพทรัพย์สินของท่าน เช่น พาหนะ กระเป๋า หมวก เครื่องแต่งกาย

             ทั้งนี้ บริษัทจะไม่ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV)  ในพื้นที่ที่อาจล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือสถานที่เพื่อใช้ในการพักผ่อนของผู้ปฏิบัติงาน

        4. วิธีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

            (ก) การคุ้มครองชีวิต ร่างกาย สุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของบุคคลต่าง ๆ

           (ข) การคุ้มครองและป้องกันสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และสินทรัพย์ของเราจากความเสียหาย การถูกรบกวน การถูกทำลาย และอาชญากรรมอื่น ๆ

           (ค) การสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน สืบสวน และดำเนินคดีต่ออาชญากรรม และการดำเนินการเพื่อการยับยั้งอาชญากรรม

           (ง) การช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางวินัยหรือการร้องทุกข์

          (จ) การช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนการที่เกี่ยวกับการแจ้งเบาะแส และ

          (ฉ) การช่วยเหลือในการเริ่มต้นหรือต่อสู้คดีแพ่งใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง คดีการจ้างงาน

  1. กล้องวงจรปิดของบริษัททำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เว้นแต่ในกรณีที่ระบบขัดข้องหรือมีการซ่อมบำรุงระบบ
  2. บริษัทได้ติดตั้งป้ายที่เหมาะสมไว้ในพื้นที่ภายใต้การสอดส่องดูแล เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงการใช้กล้องวงจรปิดและการบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

      5.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลที่สาม

  1. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลที่สาม (รวมถึงบริษัทในเครือและผู้ให้บริการของเรา) ในกรณีที่บริษัทพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้น
  2. บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย หากมีความจำเป็นต้องเปิดเผยเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของเรา และเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน สืบสวน และดำเนินคดีต่ออาชญากรรม

       6. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

           เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV)  ตามที่ประกาศนี้กำหนด บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิด (CCTV)  ที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ท่านได้เข้าอาคารหรือสถานที่ของบริษัท เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ภาพที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดนั้นจะถูกลบโดย อัตโนมัติ  ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวบริษัทจะทำการ ลบ นำออกจากระบบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุ ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

       7.สิทธิของท่านท่านมีสิทธิตามกฎหมายดังต่อไปนี้

  1. สิทธิการเข้าถึง ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยคำขอนั้นจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งไปยังช่องทางตามที่ระบุไว้ในส่วน ” ช่องทางการติดต่อเรา ” คำขอของท่านจะได้รับการดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

             บริษัทอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอของท่านได้ในกรณีที่คำขอนั้นอาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ทั้งนี้เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตโดยกฎหมายหรือคำสั่งศาล

         2. สิทธิการแก้ไขให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทได้ประมวลผลเกี่ยวกับท่านให้สมบูรณ์ ถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเป็นปัจจุบัน

  1. สิทธิการโอนย้ายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการจัดเรียงแล้ว และส่งข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น โดยต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัท และกรณีที่เราประมวลผลข้อมูลนั้นโดยอาศัยฐานความยินยอมจากท่าน
  2. สิทธิการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการบรรลุประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (หรือของบุคคลอื่น) ได้ บริษัทอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถแสดงได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวซึ่งอาจสำคัญยิ่งกว่าประโยชน์ของท่าน หรือถ้าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  3. สิทธิการลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเชื่อว่า

             (1) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุในคำชี้แจงฉบับนี้แล้ว หรือ

             (2) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย

  1. สิทธิการจำกัดการประมวลผล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากท่านเชื่อว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในคำชี้แจงฉบับนี้แล้ว แต่ท่านยังต้องการให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
  2. สิทธิการถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมนั้น ณ เวลาใดก็ได้
  3. สิทธิการยื่นเรื่องร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนบริษัทต่อหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากท่านเชื่อว่าบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ใด ๆ ของเราตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

     8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

         บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Policy) ของบริษัท

         นอกจากนี้  บริษัทได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบโดยทั่วกันทั้งองค์กร พร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม

      9. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

         บริษัทได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

      10. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

            ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ บริษัทอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง เช่น ติดไว้ที่ประตูทางเข้า-ออก หรือโต๊ะประชาสัมพันธ์ เว็บไซต์ บอร์ดประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

             การเข้ามาในพื้นที่ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงเข้ามาในพื้นที่ต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว

        11. ช่องทางการติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ

              หากเจ้าของข้อมูลต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตลอดจนมีข้อสงสัยหรือมีความประสงค์ขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถ ติดต่อบริษัทผ่านช่องทางดังนี้

             ชื่อบริษัท  :     บริษัท มิตรสิบ เสกเงิน จำกัด  

            ที่อยู่ :               895-6  ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 10270

            เว็บไซต์ของบริษัท :    www.mitsibsekngoen.com

            อีเมล :      cm.dpo@mitsibleasing.com

            เบอร์โทรศัพท์ :  02-7438787  ต่อ 922,923

  • แบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล      ดาวน์โหลด
  • แบบฟอร์มคำร้องขอดูกล้อง CCTV                               ดาวน์โหลด